ช่วยกดแชร์ด้วยนะคะ
ชาวสวนสุพรรณบุรี วางแผนปลูกคื่นช่าย...ช่วงฝน...7 ไร่ ฟันเงินล้าน ราคาพุ่ง กก.ละ 100 กว่าบาท
คื่นช่ายเป็นพืชที่มีความต้องการบริโภคสูงชนิดหนึ่ง แต่คื่นช่ายก็เป็นผักที่ปลูกค่อนข้างยากกว่าผักชนิดอื่น นอกจากนี้คื่นช่ายมักจะมีปัญหาเรื่องโรครบกวนที่รุนแรงโดยเฉพาะโรคใบจุดแบคทีเรีย โรคต้นและใบไหม้รวมทั้งโรคต้นเหลือง ซึ่งโรคจะอยู่ในดินเป็นปีๆ ทำให้ไม่สามารถปลูกลงดินซ้ำที่เดิมได้ต้องทิ้งระยะเวลาเป็น 1-3 ปี จึงจะปลูกซ้ำดินเดิมได้ นี่อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ราคาของคื่นช่ายค่อนข้างสูงถึง โดยเฉพาะช่วงฝนที่คื่นช่ายจะมีราคาค่อนข้างสูงถึง 100-150 บาท/กก. เลยทีเดียว
วางแผนปลูกคื่นช่ายช่วงราคาแพง
วันนี้จะพาไปดูการปลูกคื่นช่ายของชาวสวนมืออาชีพ ของ อ.บางเลน จ.นครปฐม คุณโชคชัย กาญจน์สิทธิโชค ที่ยึดอาชีพปลูกผักมานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยก่อนหน้านี้คุณโชคชัยจะปลูกพืชหัวอย่างเผือก มันเทศเป็นหลัก แต่ผลตอบแทนสู้ผักไม่ได้และมีความเสี่ยงสูง ช่วงหลังคุณโชคชัยจึงหันมาปลูกผักหลายชนิดหมุนเวียนกันไปบนเนื้อที่ 10 กว่าไร่ ที่ปลูกเป็นประจำก็มีคะน้า พริก กวางตุ้ง ผักกาดหอม เป็นต้น ซึ่งจะปลูกหมุนเวียนกันไปตามช่วงจังหวะราคาของผักแต่ละชนิด ส่วนของคื่นช่ายนี้แม้ราคาจะสูงแต่ปัญหาของโรคที่อยู่ในดินทำให้ต้องสลับไปปลูกพืชชนิดอื่นนานหลายปีกว่าจะกลับมาปลูกคื่นช่ายได้อีก อย่างรุ่นนี้ต้องเว้นช่วงไปนานกว่า 3 ปีเลยทีเดียวจึงจะกลับมาปลูกใหม่ได้อีก คุณโชคชัยบอกว่าถ้าปลูกซ้ำแปลงเดิมมักจะมีปัญหาสารพัดโรคเข้าทำลายทั้งโรครากเน่าโคนเน่า โรคใบจุดแบคทีเรีย โรคต้นและใบไหม้เข้าทำลายจนเสียหายยกแปลงเลยทีเดียว
คื่นช่ายแปลงนี้คุณโชคชัยเล่าว่า ปลูกเมื่อประมาณต้นเดือน เม.ย. ซึ่งก็จะต้องมีการวางแผนก่อนว่าจะปลูกผักชนิดใดในช่วงไหน คื่นช่ายมักจะมีราคาแพงเมื่อเริ่มเข้าฤดูฝน คุณโชคชัยจึงวางแผนปลูกช่วงแล้ง รุ่นนี้ 1 เม.ย. หว่านเม็ดเลย เพื่อเก็บขายในช่วงแพง โดยคื่นช่ายจะสามารถเก็บได้หลังจากหว่านเมล็ดประมาณ 80 วัน ถ้าเป็นช่วงหนาวผักงามเร็ว โตดี จะใช้เวลาเพียง 60 วันก็จะเก็บผลผลิตขายได้แล้ว ปกติแล้วการเก็บคื่นช่ายจะนิยมเก็บครั้งเดียวหมดแปลง แต่ถ้าต้นโตไม่สม่ำเสมอกัน มีต้นเล็กอีกรุ่นอยู่ในแปลงด้วย ก็จะเก็บ 2 ครั้ง แต่ละครั้งห่างกันประมาณ 10 วัน คุณโชคชัยเก็บผลผลิตไปเมื่อกลางเดือนมิถุนายน ผลผลิตทั้งหมดประมาณ 10 ตัน โดยเก็บไปครั้งแรกเอาต้นโตออกก่อนรอบหนึ่ง อีก 10 วันถัดจากนั้นเอาต้นเล็กออกหมดแปลง คุณโชคชัยบอกว่า แปลงนี้ตอนปลูกครั้งแรก ดินใหม่เคยได้ผลผลิตถึง 15 ตัน เลยทีเดียว
คื่นช่ายหน้าฝน โหนราคาหลักร้อยตลอด
7 ไร่ เลยฟันกำไร หลักล้าน
ในด้านราคาขายนั้นคุณโชคชัยบอกว่า โดยปกติแล้ว คื่นช่ายจะราคาแพงในช่วงฝนมาโดยตลอด ทุกครั้งที่ปลูกจึงจะวางแผนปลูกช่วงแล้งเพื่อให้เก็บได้ช่วงฝนตลอด โดยนับย้อนไป 80 วัน หว่านเมล็ดเลย แต่ก็ไม่เคยผิดหวังสักครั้งกับราคาคื่นช่าย เพราะคื่นช่ายที่ปลูกช่วงจะทำยาก เพราะผักที่ปลูกช่วงแล้งช่วงต้นเล็กผักจะไม่ค่อยโต แคระเกร็น ต้องมีแหล่งน้ำที่เพียงพอและต้องมีการให้ปุ๋ยที่เพียงพอด้วย แถมผักที่ผ่านแล้งมาได้ยังต้องมาเจอฝนที่เสี่ยงต่อโรคในช่วงต้นโตอีก จึงทำให้เสี่ยงต่อโรคเข้าทำลาย ราคาจึงสูง คื่นช่ายที่เก็บขายไปราคา 100-120 บาท/กก. เลยทีเดียว ผลผลิต 10 ตันเศษ ล้านกว่าบาทค่ะ....
คื่นช่ายลงทุนสูง เพราะต้องพรางแสง
โอกาสเสี่ยงเสียหายจากโรคก็สูง
ในส่วนของการปลูกและดูแลนั้น คุณโชคชัย บอกว่า คื่นช่ายต้องปลูกในที่พรางแสง จึงทำให้หลายคนไม่อยากลงทุน เพราะลงทุนสูง ยิ่งถ้าไม่ได้ผลผลิตก็เท่ากับลงทุนสูญเปล่า โดยค่าลงทุนทำซาแลน 7 ไร่ อยู่ประมาณ 8 หมื่นบาท แต่ก็ใช้ได้หลายครั้ง ซาแลนถ้าใช้เสร็จก็เก็บไว้ใช้ครั้งต่อไปได้ ใช้ได้ 3-5 ครั้ง หลังจากเตรียมแปลงเสร็จก็หว่านเมล็ด โดยใช้พันธุ์ บัวบก ตรา นกแดง 1 ไร่ ใช้เมล็ด 800 กรัม หรือ 8 ขีด เมล็ดพันธุ์กระป๋องหนึ่ง 4 ขีด ราคากระป๋องละ 530 บาท ปีนี้ถือว่าเมล็ดพันธุ์ราคาไม่แพง ปกติแล้วตกกิโลกรัมละ 20,000 บาท ให้ปุ๋ยประมาณ 3 ครั้ง ในช่วง 30 วัน 60 วัน และ 70 วัน ใช้ 16-16-16 สูตรเดียว ครั้งแรกให้ 4 กระสอบ ครั้งที่ 2 และ 3 ให้ครั้งละ 6 กระสอบ ในพื้นที่ 7 ไร่ และเสริมด้วยธาตุอาหารเสริมทางใบเพื่อเร่งราก เร่งใบ ให้ต้นเติบโตเร็ว แข็งแรง น้ำหนักดี
คุณโชคชัยบอกว่า คื่นช่ายมีความเสี่ยงสูงในเรื่องของโรค มักจะมีปัญหาเรื่องโรครบกวนที่รุนแรงโดยเฉพาะโรคใบจุดแบคทีเรีย โรคต้นและใบไหม้รวมทั้งโรคต้นเหลือง บางแปลงเสียหายยกแปลงเลยก็มี หลายคนไม่กล้าลงทุนเพราะกลัวโรค โดยโรคมักจะระบาดในช่วงอากาศร้อนแล้วฝนตก ใบจะลายเป็นหย่อมๆ สารเคมีที่คุณโชคชัยใช้ก็จะมี สกอร์ ฟอรั่ม และเฮกซาโคลนาโซล ก็พอไหว ส่วนแมลงเจอไรแดงบ้างไม่มาก ใช้ แอสเซนด์ พ่นไม่กี่ครั้งก็หาย บางปีที่ปลูกไรแดงระบาดหนัก เสียหายเหมือนกัน คื่นช่ายราคาดีแต่ก็เสี่ยงสูงในหลายเรื่อง
แม้หลายคนไม่กล้าเสี่ยงที่จะปลูกคื่นช่ายจากปัญหาของโรคที่รุนแรง และไม่สามารถปลูกทุกปีได้อย่างที่บอกเนื่องจากปัญหาการที่เชื้อสะสมอยู่ในดินต้องเว้นช่วงไปก่อน 3-4 ปี จึงจะกลับมาปลูกใหม่ได้ หากสามารถแก้ปัญหาหรือกำจัดเชื้อโรคที่ดินได้ก็จะสามารถปลูกคื่นช่ายได้ทุกปี แต่ในวันนี้ยังไม่มีสารเคมีที่จะฆ่าเชื้อได้ จึงยังมีความเสี่ยงสูง คุณโชคชัยบอกว่า แม้จะมีความเสี่ยงสูงแต่คื่นช่ายก็มีโอกาสทำเงินก้อนโตได้อย่างคุ้มค่าและด้วยประสบกาณ์ทำให้คุณโชคชัยยอมเสี่ยงที่จะปลูกคื่นช่ายทุกครั้งที่มีโอกาสเลยทีเดียว
ข้อมูล คุณโชคชัย กาญจน์สิทธิโชค 67 ม.13 ต.บางเลน อ.บางเลน จ.นครปฐม โทร.081-2686095
ติดตามความรู้ด้านการเกษตรดีๆได้ที่ กลุ่มเกษตรก้าวใหม่ cr.Rakkaset Nungruethail
ช่วยกดแชร์ด้วยนะคะ