ช่วยกดแชร์ด้วยนะคะ
.
เกษตรกร กำแพงแสน ปลูกกระชายส่งขาย สร้างรายได้หมุนเวียนตลอดปี
กระชาย พืชพื้นบ้านที่มีการปลูกกันกระจัดกระจายทั่วทุกพื้นที่ในประเทศเนื่องจากความต้องการบริโภคกระชายนั้นมีปริมาณมากไม่แพ้พืชชนิดอื่นเลยทีเดียว ซึ่งอาหารหลายชนิดจะต้องมีกระชายมาช่วยเพิ่มความอร่อย เช่น แกงป่า แกงเผ็ด ผัดเผ็ด ผัดฉ่าและอื่นๆ กระชายยังเป็นส่วนผสมของเครื่องแกงอย่างแกงส้ม น้ำยาขนมจีน นอกจากนี้กระชายยังได้รับความนิยมในการนำมาปั่นเป็นเครื่องดื่มสมุนไพร ช่วยให้ร่างกายกระชุ่มกระชวยอีกด้วย แหล่งปลูกกระชายแหล่งใหญ่แห่งหนึ่งของบ้านเราก็คือ เขต อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ที่นี่จะมีแปลงกระชายกระจายอยู่ตลอดทาง นั่นเพราะเมื่อเทียบกับพืชอีกหลายชนิดแล้วกระชายนับว่ามีข้อได้เปรียบและให้ผลตอบแทนที่ดีทีเดียว
ผู้ใหญ่วิฑูล รมกันนา ที่นอกจากจะทำหน้าที่รับใช้ประชาชนในเขต ม.2 ต.ทุ่งขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม แล้วยังทำสวนกระชายมานานหลายปี ผู้ใหญ่บอกว่า เดิมทีนั้นพื้นที่เขตนี้จะปลูกข้าวและอ้อยกันเป็นหลัก แต่มาช่วงหลังๆ มาอ้อยราคาถูกลง ขณะที่กระชายก็ให้ผลตอบแทนที่ดีจึงทำให้ชาวสวนปรับเปลี่ยนพื้นที่มาปลูกกระชายกันมากขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้ที่นี่มองไปทางไหนก็เห็นแต่ดงกระชายเต็มไปหมด
.
.
กระชายเป็นพืชที่ใช้เวลาปลูกนาน 6-7 เดือนจึงจะสามารถขุดได้ จึงทำให้ชาวสวนที่นี่นิยมหาพืชอายุสั้นชนิดอื่นมาปลูกระหว่างต้นกระชายเพื่อเสริมรายได้ไปก่อน โดยพืชที่นิยมปลูกกันก็จะมีผักชี ข้าวโพดและเผือกซึ่งสามารถทำเงินได้ก่อนเพราะใช้เวลา 2 เดือนผักอายุสั้นก็สามารถขายได้แล้ว
กระชายแม้จะสามารถขุดขายได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือน แต่ถ้าช่วงนั้นกระชายราคากระชายไม่เป็นที่พอใจของชาวสวน และหากชาวสวนมีรายได้จากพืชที่ปลูกแซมลงไปบ้างชาวสวนก็จะยังไม่ขุดกระชายขาย แต่จะรอจนกว่าราคากระชายจะสูงขึ้นจนเป็นที่พอใจ ส่วนใครจะรอนานแค่ไหนก็ขึ้นอยู่ว่าต้องการเงินมาใช้จ่ายเร็วแค่ไหน อย่างไรก็ตามกระชายที่ปล่อยไว้ในแปลงต้นจะเหี่ยวลงเรื่อยๆ หัวจะเล็กลงและน้ำหนักก็จะลดลงเรื่อยๆ แต่หากราคากระชายสูงขึ้นแม้น้ำหนักจะหายไปบ้างแต่ก็เรียกว่าคุ้มค่ากับเวลาที่รอคอย แต่ถ้าโชคร้ายชาวสวนทิ้งกระชายไว้ในแปลงเพื่อรอราคาแต่ราคากระชายกลับไม่กระเตื้องขึ้นอย่างที่หวังแถมน้ำหนักยังหายไปอีกก็จะทำให้ชาวสวนมีรายได้ที่ลดลง แต่โอกาสก็น้อยมากที่จะเป็นเช่นนั้น เพราะส่วนใหญ่พอกระชายครบอายุที่จะขุดขายได้ชาวสวนก็จะทยอยกันขุดกระชายออกจากแปลงเพื่อขายเพราะรายจ่ายรออยู่นั่นเอง จึงทำให้กระชายแปลงที่ขุดช้ามีโอกาสที่จะได้ราคาที่สูงขึ้นเพราะกระชายจะลดน้อยลงเรื่อยๆ
.
ผู้ใหญ่เล่าถึงการปลูกกระชายว่า การปลูกกระชายจะต้องยกร่องให้ร่องกว้างประมาณ 1.5-2 เมตร ความยาวก็ตามพื้นที่ กระชายจะใช้ระยะปลูกห่างระหว่างต้น 5 ซม. แถวหนึ่งจะมี 30 ต้น หลังจากปลูกจะคลุมแปลงด้วยฟางเพื่อป้องกันหญ้าขึ้นและเพิ่มความชื้นให้กับแปลง ไร่หนึ่งจะใช้ฟาง 70 ก้อน สำหรับพันธุ์ที่นำมาปลูกนั้นไร่หนึ่งใช้พันธุ์ประมาณ 350 กก.เป็นพันธุ์รากกล้วย พันธุ์พวง ผู้ใหญ่บอกว่ากระชายดูแลไม่ยุ่งยากเหมือนพืชอื่น หนึ่งรอบการปลูก ใส่ปุ๋ยเพียง 2 ครั้ง สูตร 15-15-15 ในช่วงอายุ 2-3 เดือน โดยใช้ไร่ละครึ่งกระสอบหรือ 25 กก. อายุ 3-4 เดือนฉีดพ่นธาตุอาหารเสริมพวกกรดอะมิโนเพื่อช่วยในการเร่งราก เร่งหัวโต ฉีดพ่นติดต่อกัน 3 ครั้ง ห่างกัน 10 วันแล้วใส่ปุ๋ย 0-0-50 ไปพร้อมกัน ฉีดพ่นทำให้รากฝอยแตกดี ช่วยในการหาอาหารของพืชจะดีขึ้น
การให้น้ำนั้นก็จะแบ่งรดน้ำเป็นร่องๆ ละ 20 นาที กระชายนั้นแม้จะปลูกไม่ยากแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีปัญหา สิ่งที่สำคัญที่เป็นปัญหาในการปลูกกระชาย ก็คือ โรคต้นล้ม ที่เกิดจากอาการรากเน่า ต้นเน่า ซึ่งอาการนี้จะเกิดขึ้นได้ทุกช่วงอายุ แต่ที่สังเกตเห็นได้ง่ายก็อยู่ในช่วงอายุ 2 เดือนขึ้นไป โดยเฉพาะในช่วงเดือน ส.ค.- พ.ย. หรือในหน้าฝน จะเกิดปัญหาโรคนี้ค่อนข้างเยอะ ซึ่งก็ต้องฉีดพ่นสารกำจัดเชื้อราที่ผ่านมาก็ใช้ยามาหลายยี่ห้อแต่ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ จึงมีกระชายเกิดโรคอยู่ในแปลงเป็นหย่อมๆ ซึ่งต้องฉีดพ่นยากันราประคับประคองไปเรื่อยๆจนกว่าจะครบอายุ 6 เดือนที่สามารถขุดได้ โดยปกติแล้วจะเริ่มปลูกในช่วงเดือน เม.ย.แล้วมาขุดในเดือน ต.ค.หรือ พ.ย.
ผู้ใหญ่ บอกต่อว่า ในแปลงนั้นสิ่งที่จะต้องคอยดูแลเรื่อยๆนอกจากเรื่องของโรคนั้น ก็คือ หญ้ารก ซึ่งปีหนึ่งๆจะจ้างแรงงานถอนหญ้า 2 ครั้ง รวมแล้วใช้เงินประมาณ 20,000 บาท การลงทุนปลูกกระชายนั้นประมาณ 30,000 บาท/ไร่
.
กระชายเป็นพืชที่ต้องใช้แรงงานมากในบางช่วงโดยเฉพาะช่วงปลูกและช่วงขุดกระชาย จึงทำให้ชาวบ้านที่นี่แต่ละรายปลูกกระชายกันไม่มาก เพราะทุกคนต่างก็ปลูกกระชายเหมือนกัน ช่วงขุดกระชายก็จะต้องมาแย่งคนงานกัน อย่างพื้นที่ปลูกกระชายของผู้ใหญ่วันหนึ่งต้องใช้แรงงานขุดหลายคน ซึ่งหนึ่งคนจะขุดได้ 120-130 กก./วัน เมื่อขุดขึ้นมาแล้วก็ต้องมาแกะดินออก ล้างดินที่ติดมาออกจนหัวกระชายสะอาด แล้วมาตัดรากฝอยออกให้เหลือแต่เหง้าหรือหัวกระชาย แล้วบรรจุใส่แข่งๆละ 80 กก. โดยค่าจ้างแรงงานขุดจนตกแต่งเสร็จ 5 บาทต่อกก. กระชายไร่หนึ่งจะให้ผลผลิตประมาณ 4-5 ตัน ขั้นต่ำก็ได้ประมาณ 3 ตัน
สำหรับเรื่องของราคานั้นจะยืนพื้นอยู่ที่ 12-13 บาท ราคาต่ำกว่านี้อยู่ที่ 7-8 บาท แต่สำหรับปีนี้โดยเฉพาะในเดือนก.ย.ราคาสูงถึง 60 บาทต่อกก. ผู้ใหญ่บอกต่อว่า ถ้าราคาดีไร่หนึ่งได้เป็นแสนบาทเลยทีเดียว 5 ไร่ได้ 20 ตัน ส่งขายให้แม่ค้าตลาดไทและสี่มุมเมือง
ข้อมูลเพิ่มเติม นายวิฑูล รมกันนา 98 ม.2 ต.ทุ่งขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม โทร. 086-1685-145
Rakkaset Nungruethail รักษ์เกษตร
ช่วยกดแชร์ด้วยนะคะ