เทคนิคการปลูกผักในร่ม ใต้โคนต้นไม้ใหญ่
ด้วยความรู้เป็นพื้นฐานมาโดยตลอดว่า ผักควรปลูกในที่โล่งแจ้งรับแดดเต็มที่ ลมโกรก แต่ความเป็นจริงแล้ว การจะปลูกผักไว้ใต้โคนต้นไม้ ในสวนหลังบ้านก็ทำได้ โดยเฉพาะต้นไม้ใหญ่ ๆ สูง ๆ จะทำให้ร่มไม้ช่วงที่มีแดดส่องลดปริมาณแสงลงได้ก็จะเป็นการดีต่อผักที่ปลูก
การปลูปผักตามโคนต้นไม้ขั้นต้นปรับสภาพดินนิดหนึ่งโดยใส่อินทรียวัตถุเข้าไปเช่น เถ้าแกลบดำ ปุ๋ยหมัก แล้วนำฟางข้าวมาคลุมดิน ผักที่เหมาะสมต่อการปลูกก็มี ผักบุ้ง ผักกาด เป็นต้น
หากต้องการให้เจริญเติบโตเร็วได้ดั่งใจก็ใช้น้ำฮอร์โมนเร่งพืชเติบโตใส่ลงไป โดยใช้ EM และกากน้ำตาลมอลาส์หมักก็เป็นการประหยัดงบประมาณ สำหรับสูตรเร่งการเจริญเติบโตของผักจะประกอบด้วยส่วนผสมของ 3 อย่าง มาหมักด้วยกัน มีมะละกอสุก ฟักทองสุก และกล้วยน้ำว้าสุก เอาแต่เนื้อไม่เอาเปลือกเวลาใช้งานก็เอาน้ำตะกอนเหลืองไปใช้ด้วย ผสมน้ำก่อนแล้วฉีดพ่นแบบการให้ปุ๋ยทางใบ
หากจะให้พืชผักออกใบงามตามที่ต้องการก็เติมสูตรฮอร์โมนเร่งใบ ที่มีส่วนผสมพวกหญ้าแพรก ใบกระถิน ใบก้ามปู ส่วนที่เร่งดอกผลก็เน้นมะละกอ ฟักทอง กล้วยน้ำว้า
ส่วนปุ๋ยหมักแห้งที่ใช้ในการสร้างความสมบูรณ์ของดินนั้นผลิตเองได้เช่นกัน โดยการนำของแข็งพวกเปลือกผลไม้ เศษผัก ใบหญ้า มาทำเป็นปุ๋ยหมักแห้งใช้ปรับปรุงดิน หากขยันขึ้นมาอีกนิดทำทีเดียวเก็บไว้ใช้นาน ๆ ก็เอาเศษผัก ใบไม้ มูลสัตว์ รำข้าว และ EM หมักเข้าด้วยกัน เมื่อได้ที่ก็นำมาทำเป็นปุ๋ยเม็ดไว้ใช้ยามที่ต้องการ
ที่สำคัญการปลูกผักแบบนี้ต้องปลูกผักชนิดเดียวในบริเวณโคนต้นหนึ่งต้น และเมื่อเก็บเกี่ยวแล้วควรปลูกผักชนิดอื่น ไม่ควรปลูกผักชนิดเดียวซ้ำ ๆ ในที่เดียว เพราะจะทำให้ได้ผลผลิตในรุ่นต่อมาไม่ดีเท่าที่ควร เช่น หากเป็นผักบุ้งปลูกที่เดิมซ้ำ ๆ เพียง 3 ครั้ง เท่านั้นใบก็จะหงิกไม่เติบโต
หากมีต้นไม้หลายต้นในบริเวณเดียวกันก็ควรปลูกผักแบบสลับชนิดเช่น ต้นหนึ่งปลูก คะน้า อีกต้นควรปลูกผักบุ้ง เมื่อเก็บเกี่ยวแล้ว ต้นที่ปลูกคะน้าก็เปลี่ยนมาเป็นผักบุ้ง ผักบุ้งก็เปลี่ยนเป็นคะน้า ปลูกอย่างนี้จะมีผักให้ได้กินยาวนานแบบแมลงตามเข้ามากัดกินไม่ทันผู้ปลูก
และควรปลูกผักตามฤดูกาล เช่นหน้าฝนควรปลูกพืชทนฝน เช่น มะเขือ หน้าหนาว ปลูกผักคะน้า บรอกโคลี่ ผักบุ้ง หน้าแล้งควรพักดินเพื่อล่อให้แมลงฟักไข่ออกมาแต่ไม่มีอาหารกินก็ต้องตายไปตามธรรมชาติ พอปลูกใหม่แมลงก็จะไม่มีหรือมีก็น้อย การเสียหายของผักที่ปลูกก็จะลดลงทำให้ผู้ปลูกมีผักกินตามที่ต้องการแบบไม่มีสารเคมีเจือปน เพราะไม่ได้ใช้
ขณะเดียวกันก็เป็นการประดับสร้างความสวยงามให้กับบริเวณโคนต้นไม้ และเป็นการเพิ่มอินทรีย์สารที่เป็นอาหารให้กับต้นไม้ใหญ่อีกด้วย.