กล้วยตัดใบแหล่งใหญ่ของประเทศ...ที่สุโขทัย
พื้นที่ปลูกนับ 10,000 ไร่ วันนี้ก้าวไกลสู่ตลาดส่งออก
ใครจะไปคิดว่าใบตองที่เห็นจนคุ้นตาจะมีปริมาณการใช้มากจนสามารถเป็นพืชเศรษฐกิจสร้างอาชีพได้ ยิ่งไปกว่านั้นใครจะไปคิดใบตองธรรมดาๆนี่แหละจะกลายเป็นสินค้าส่งออกที่ทำรายได้เข้าประเทศได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะจะว่ากันไปแล้วการปลูกกล้วยตัดใบเพื่อขายเป็นใบตองดูจะเป็นพืชนอกความสนใจหรือพืชนอกสายตาของใครหลายคน แต่ที่ อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย ชาวบ้านที่นี่ยึดอาชีพปลูกกล้วยตานีขายใบกันมานานร่วม 40-50 ปีแล้ว สืบทอดอาชีพกันจากรุ่นสู่รุ่น ปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกรวมกว่า 10,000 ไร่ เลยทีเดียว นับเป็นแหล่งปลูกกล้วยตานีเพื่อตัดใบขายแหล่งใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยมีการปลูกกันมากในเขต ต.บางยม ย่านยาว ปากน้ำ ท่าทอง เมืองและคลองกระจง โดยเฉพาะในเขต ต.คลองกระจงมีพื้นที่มากที่สุดกว่า 8,000 ไร่ ไม่ธรรมดาจริงๆ ค่ะ
กล้วยตานีเป็นกล้วยป่าชนิดหนึ่ง ใบมีลักษณะสวย มันเงา ขนาดใบยาว กว้างและเหนียว ในอดีตนิยมนำใบกล้วยตานีมามวนบุหรี่และใช้ทำภาชนะบรรจุอาหาร ด้วยคุณสมบัติโดดเด่นของใบกล้วยตานีจึงนำมาใช้เพื่อห่อขนมต่างๆ มาจนถึงปัจจุบัน ส่วนของปลี หยวกและผลอ่อนก็นำมาประกอบอาหาร แต่ผลแก่ไม่นิยมรับประทานเพราะมีเมล็ดมาก มีข้อสันนิษฐานว่ากล้วยตานีน่าจะนำเข้ามาปลูกในเมืองไทยตั้งแต่สมัยสุโขทัยตอนต้น หรือช่วงที่คนไทยอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานที่สุโขทัย ไม่น่าเชื่อว่าวันนี้จังหวัดสุโขทัยจะมีการอนุรักษ์และกลายเป็นแหล่งปลูกกล้วยตานีมากที่สุดของประเทศ
กล้วยตานีที่ใช้ตัดใบได้จะมี 3 ชนิด คือ กล้วยตานีป่า กล้วยตานีหินและกล้วยตานีหม้อ แต่ชนิดที่นิยมปลูกกันมากจะเป็นกล้วยตานีหม้อเพราะทนต่อสภาพแวดล้อมต่างๆ หาอาหารเก่ง สามารถเก็บน้ำได้มากถึง 3-5 ลิตร จุดเด่นของใบตองคือ ใบมีขนาดใหญ่และหนา ใบเหนียว ไม่แตกง่าย มีกลิ่นหอมถ้าถูกความร้อนไม่ทำให้รสชาติอาหารเปลี่ยน
เยี่ยมสวนกล้วยตานี...กับการผลิตใบตองคุณภาพ
ป้อนทั้งในและต่างประเทศของ เกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ
กล้วยตานีที่นี่จะมีการปลูกกันอย่างแพร่หลายทั้งปลูกเป็นแนวรั้วบ้าน รั้วสวน ปลูกแซมในสวนไม้ผลไปจนถึงปลูกเป็นสวนเดี่ยวเชิงธุรกิจ โดยผู้ที่เป็นแกนนำก็คือ คุณบุญชอบ เอมอิ่ม ซึ่งทำสวนมะยงชิด มะปรางหวานเป็นไม้ผลหลัก ประมาณ 30 ไร่ และปลูกกล้วยตานีแซมในสวนไม้ผล คุณบุญชอบนับเป็นเกษตรกรหัวก้าวหน้าที่พัฒนาการเกษตรจนได้รับตำแหน่งต่างๆมากมาย อาทิ เกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ สาขาอาชีพทำสวน ปี 2553 ครูภูมิปัญญาไทย รุ่นที่ 6 ด้านเกษตรกรรม ประจำปี 2552 จาก กระทรวงศึกษาธิการ อีกทั้งยังได้ปริญญาเศรษฐศาสตร์มหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ม.เชียงใหม่ คุณบุญชอบ ได้ศึกษาและพัฒนาสายพันธุ์มะปราง มะยงชิด จนได้มะปรางสายพันธุ์สุโขทัยแท้ มะปรางสายพันธุ์ใหม่ที่ครูบุญชอบได้คิดค้นพัฒนาขึ้นมามีทั้งหมด 7 สายพันธุ์ ได้แก่ พันธุ์เจ้าเนื้อทอง 1, 2 พันธุ์ทองเอมอิ่ม 1, 2 พันธุ์ทองสุโข พันธุ์ทองพวง พันธุ์ทองหยด ซึ่งแตกต่างจากพันธุ์เดิม คือ ผลสีสวย มีขนาดใหญ่ เมล็ดลีบแบน เปลือกหนาไม่ช้ำง่าย เนื้อแข็งไม่ฉ่ำน้ำ รสชาติดีหวานสนิท ผลดิบจะมีรสมันไม่ระคายคอ ล้วนแต่เป็นพันธุ์ที่มีลักษณะโดดเด่นและได้รับรางวัลมากมายจากหลายสถาบัน นอกจากนั้นได้ริเริ่มประดิษฐ์ “สามล้อเกษตรอเนกประสงค์” ได้รับรางวัลเป็นผู้อนุรักษ์และส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านเครื่องมือดีเด่นเป็นต้นแบบขยายผลไปสู่เครือข่ายอย่างกว้างขวาง ผลงานเป็นที่ยอมรับทั้งในระดับท้องถิ่น และระดับประเทศ สวนของบุญชอบ ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ในลักษณะสวนไม้ผลผสมผสาน ที่ดำเนินงานตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ของกรมการศึกษานอกโรงเรียน และเป็นศูนย์เรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง บ้านกรงทอง ต.คลองกระจง อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัยที่มีผู้สนใจเข้ามาดูงานทั้งภาครัฐ เอกชนจนถึงเกษตรกรมาศึกษาดูงานอยู่ไม่ขาด
ในส่วนของกล้วยตานีคุณบุญชอบพยายามที่จะปลูกกล้วยตานีเพื่อให้ได้ใบตองที่มีคุณภาพ ยกระดับใบตองของที่นี่ให้มีคุณภาพสูง จนปัจจุบันนอกจากการจำหน่ายใบตองป้อนตลาดในประเทศแล้ว กลุ่มนี้ยังรวบรวมผลผลิตให้กับบริษัทส่งออกไปยังต่างประเทศอีกด้วย ซึ่งกล้วยตัดใบที่จะส่งออกได้ต้องผ่านการรับรองมาตรฐาน GAP และสมาชิกต้องผ่านการอบรมการผลิตใบกล้วยที่ถูกต้อง ปัจจุบันมีสมาชิกราว 40-50 คน พื้นที่รวมประมาณ 600 ไร่ การผลิตใบกล้วยส่งตลาดต่างประเทศแม้จะได้ราคาสูงกว่าป้อนตลาดในประเทศแต่คุณภาพของใบกล้วยที่กำหนดไว้ค่อนข้างสูงก็นับเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ชาวบ้านไม่ค่อยให้ความสนใจกับการผลิตเพื่อส่งออก แต่คุณบุญชอบก็ยังเดินหน้าที่จะส่งเสริมให้ชาวบ้านเห็นความสำคัญของการผลิตใบตองคุณภาพเพื่อความยั่งยืนของตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศที่ยังสามารถขยายตลาดได้อีกมากและจะเป็นตลาดรองรับผลผลิตที่มีศักยภาพในอนาคต
การปลูกและการดูแลกล้วยตานีเพื่อตัดใบตองขายทำกันอย่างไร
อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ตอนแรกว่าการปลูกกล้วยตานีของที่นี่จะมีทั้งที่ปลูกเป็นพืชเดี่ยวและปลูกเป็นพืชแซมในสวนไม้ผล กล้วยตานีจึงเป็นทั้งพืชสร้างรายได้หลักและพืชสร้างรายได้เสริม สำหรับสวนคุณบุญชอบนั้นจะปลูกกล้วยตานีแซมในสวนไม้ผล โดยใช้ระยะปลูก 3x3 เมตร หรือ 180 ต้นต่อไร่ ถ้าปลูกเชิงเดี่ยวหรือระยะของไม้ผลกว้างมากก็อาจปลูกในระยะ 2.5x2.5 เมตร หรือ 240 ต้นต่อไร่
คุณบุญชอบบอกว่า กล้วยตานีปลูกและดูแลเหมือนการปลูกกล้วยทั่วไป โดยหลังปลูกแล้วประมาณ 6-8 เดือนจะใส่ปุ๋ยคอกและปุ๋ยอินทรีย์ประมาณ 200 กก./ไร่/ปี และให้ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) ในช่วงเร่งการเจริญเติบโตประมาณ 12-15 กิโลกรัมต่อไร่ มีการพรวนดินแปลงปลูกปีละ 1 ครั้ง กำจัดวัชพืชปีละ 2 ครั้ง ช่วงหน้าแล้งจะมีการให้น้ำเดือนละครั้ง หลังปลูกไปได้ 6-8 เดือน ก็เริ่มตัดใบขายจนกระทั่งกล้วยเริ่มออกปลี จึงตัดต้นแม่ทิ้ง ปล่อยให้หน่อลูกข้างต้นแม่ขึ้นมาแทน กล้วยตานีที่ปลูกในครั้งแรกจะตัดใบได้ประมาณ 24 ใบต่อต้น พอเข้าปีที่ 2 หน่อลูกที่เจริญขึ้นมาแทนต้นแม่ก็จะสามารถตัดใบขายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 4 เท่าของปีแรก ในปีที่ 3 หน่อลูกจะเพิ่มปริมาณมากขึ้นเป็นเท่าตัว แต่จะต้องควบคุมให้หน่อกล้วยตานีต่อกอไว้ประมาณ 5-7 ต้น หากไว้มากเกินไปจะทำให้ใบตองมีขนาดเล็กและคุณภาพของใบกล้วยลดลง นอกจากนี้ควรจะมีการตัดแต่งใบที่เน่าเสีย ใบที่ฉีกขาดหรือไม่มีคุณภาพทิ้งอยู่เสมอ จะช่วยให้กล้วยตานีแตกใบใหม่ที่สวยและมีคุณภาพ
ปัญหาของกล้วยตานีไม่ต่างจากกล้วยชนิดอื่น โรคที่พบส่วนใหญ่ก็จะเป็นโรคตายพราย กล้วยจะมีอาการใบเหลือง ไหม้ ต้นเน่า ยืนต้นตาย ส่วนแมลงที่พบส่วนใหญ่ก็จะมีด้วงงวงเจาะลำต้น แต่ก็ไม่รุนแรงและชาวสวนก็จะใช้วิธีตัดใบที่เป็นโรคทิ้งมากกว่าการใช้สารเคมี นอกจากนี้ก็จะมีปัญหาใบตองแตกในช่วงเดือน มีนาคม-พฤษภาคม เนื่องจากพายุลมร้อน
รายได้จากการขายใบตองกล้วยตานีน่าสนใจแค่ไหน
สำหรับรายได้จากการปลูกกล้วยตานีเพื่อขายใบนั้น ถ้าเป็นการปลูกกล้วยเชิงเดี่ยวบนพื้นที่ 1 ไร่ หากสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตจากใบกล้วยได้เต็มที่โดยกล้วยไม่เสียหายจากโรค-แมลงหรือภัยธรรมชาติ ชาวสวนจะมีรายได้ประมาณ 8,000-10,000 บาทต่อไร่ แต่ถ้าเสียหายรายได้ก็จะลดลงเหลือประมาณ 4,000-5,000 บาท/ไร่ โดยต้นทุนการดูแลจะอยู่ที่ประมาณ 2,000-2,500 บาท/ไร่ เป็นค่าการจัดการในสวน เช่น การจ้างแรงงานทำความสะอาดแปลง ตัดหญ้า สางใบ ค่าปุ๋ยคอก ปุ๋ยเคมี ค่าน้ำมัน(สำหรับเครื่องสูบน้ำ) ผลตอบแทนจะมากแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับการจัดการเพื่อให้ได้ผลผลิตสูงที่สุด เสียหายน้อยที่สุดและมีต้นทุนต่ำที่สุดนั่นเอง
คุณภาพของใบตองแบบไหนที่ตลาดต้องการ
ใบกล้วยตานีที่มีคุณภาพดีเหมาะแก่การทำใบตอง คือ ใบฉะหลาบ หรือใบที่ถัดลงมาจากยอดหรือใบเทียนลงมาประมาณ 1-2 ใบ ซึ่งเป็นใบกล้วยที่มีลักษณะอ่อนกำลังดี เหมาะแก่การใช้ห่อหุ้มสำหรับทำขนมหรือห่อหุ้มสิ่งของต่างๆ เป็นใบที่มีความสวยงาม สมบูรณ์และมีคุณภาพที่ดี โดย ใบเทียน ก็คือใบที่เราเห็นมีลักษณะม้วนเหมือนเทียนอยู่บริเวณตรงกลางยอดนั่นเอง โดยใบที่มีคุณภาพสำหรับป้อนตลาดต่างประเทศจะเป็นใบรองเทียนซึ่งก็จะเป็นใบที่อยู่ล่างลงมาจากใบเทียน ถ้าเป็นใบตองที่ส่งตลาดต่างประเทศ ต้องคัดใบที่มีความสวยงาม ความกว้างของใบจะมี 2 ขนาด คือ ความกว้าง 8-12 นิ้ว และ ความกว้างใบ 10-14 นิ้ว ไม่จำกัดความยาว ไม่ฉีกขาดเกิน 3 แฉก ส่วนใบที่ส่งตลาดในประเทศคุณภาพจะต่ำกว่าที่ส่งตลาดต่างประเทศ แต่ก็จะเป็นใบที่มีความสมบูรณ์ สวยงามเช่นกัน
การตัดใบตองเพื่อจำหน่ายนั้นจะนิยมตัด 2 ช่วง ถ้าช่วงเช้าก็ประมาณ 10.00 น. ช่วงเย็น 15.00 -18.00 น. เพราะใบกล้วยที่ตัดในช่วงดังกล่าวจะเป็นใบที่ค่อนข้างแห้ง ไม่มียางหรือน้ำค้างไหลออกมาทำให้ใบตองเปรอะเปื้อน หลังตัดแล้วจะนำใบมารวบรวมไว้ในร่มก่อน จากนั้นนำไปกรีดส่วนที่เป็นใบออกจากก้านใบ นำมาวางซ้อนกันแล้วพับ 3 พับ ซ้าย ขวาและกลาง แล้วรดน้ำเพื่อคลายความร้อนและสร้างความชุ่มชื้นให้กับใบในยามค่ำคืน รุ่งเช้าก็จะนำใบตองมาพับเป็นมัดๆละ 5 กิโลกรัมเพื่อส่งตลาด
ผลผลิตป้อนทั้งในและต่างประเทศ
สำหรับผลผลิตใบตองที่ ต.คลองกระจงนี้ จะมีการตัดใบตองส่งขายทุกวัน เฉลี่ยวันละ 20-30 ตัน โดยผลผลิตส่วนใหญ่จะขายตลาดในประเทศ ใบตองที่นี่จะคัด 3 เกรด เกรด A ซึ่งเป็นใบค่อนข้างใหญ่ ไม่มีตำหนิ ก็จะส่งตลาดต่างประเทศเพื่อป้อนให้กับร้านอาหารไทยในต่างประเทศ เกรด B จะป้อนตลาดค้าส่งในกรุงเทพฯ ส่วนเกรด C จะป้อนตลาดภาคเหนือและอีสาน โดยราคารับซื้อใบตอวจะอยู่ที่ 3-4 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนตลาดต่างประเทศราคาจะสูงกว่าถึง 2 เท่าตัว
นอกจากกล้วยตานีจะใช้ประโยชน์จากใบกล้วยเป็นหลักแล้ว ส่วนอื่นๆก็สามารถนำมาใช้ประโยชน์สร้างมูลค่าได้เช่น กล้วยตานีที่ออปลีหรือเครือแล้วก็จะหมดอายุสำหรับการตัดใบ สามารถเก็บผลกล้วยอ่อนและปลีกล้วยจำหน่ายได้ในราคากิโลกรัมละ 2-3 บาท ส่วนของลำต้นก็นำไปลอกออกเป็นกาบเพื่อทำเป็นเชือกปอกล้วย จำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 8 บาท ซึ่งนำไปใช้ทำเครื่องจักสานจากเชือกกล้วยเพิ่มมูลค่าได้อีกมากทีเดียว
กล้วยตานีเป็นพืชเศรษฐกิจสร้างรายได้ที่ดีไม่แพ้พืชอื่นอีกทั้งยังมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำมาก หลายคนอาจจะมองข้ามความสำคัญของพืชชนิดนี้ แต่ตลอดระยะเวลานานนับ 40-50 ปี ชาวบ้าน ต.คลองกระจงและพื้นที่ใกล้เคียงต่างยึดมั่นในอาชีพปลูกกล้วยตานีเพื่อสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวได้เป็นอย่างดีและเป็นอาชีพที่ยั่งยืนให้กับชาวบ้านที่นี่
ข้อมูล คุณบุญชอบ เอมอิ่ม 147 ม.5 บ้านกรงทอง ต.คลองกระจง อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย 64110 โทร.081-8881739 และ 081-8884639 ใครสนใจติดต่อคุณบุญชอบได้เลยนะคะ
cr. กลุ่มเกษตรก้าวใหม่ by Rakkaset Nungruethail (คุณหนึ่ง) บรรณาธิการ หนังสือรักษ์เกษตร