เยี่ยมสวนฝรั่ง ... มืออาชีพที่บ้านแพ้ว
ติดตามเทคนิคการผลิตฝรั่งให้ขายได้ช่วงแพง
ในช่วงหลายปีมานี้ต้องยอมรับว่าฝรั่ง คือพืชอีกชนิดที่อยู่ในกระแสความสนใจของหลายคน เนื่องจากฝรั่งเป็นพืชเพียงไม่กี่ชนิดที่มีราคาสูงอย่างต่อเนื่องมาตลอดระยะเวลาหลายปี จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ในช่วงนี้เราจะเห็นแปลงปลูกฝรั่งแปลงใหม่ๆเกิดขึ้นมากมายทั้งในแหล่งปลูกเดิมอย่างนครปฐม ราชบุรีและพื้นที่ใหม่ๆ แต่จะว่ากันไปแล้วฝรั่งดูจะเป็นพืชที่แอบทำเงินเงียบๆ ให้ชาวสวนมาตลอด เพราะฝรั่งไม่ใช่พืชที่ถูกปลุกกระแสจากสื่อต่างๆเหมือนกับอีกหลายพืชที่ถูกปลุกกระแสจนโด่งดังหรือน่าสนใจเกินความเป็นจริงเสียอีก จึงทำให้พื้นที่ปลูกฝรั่งไม่เพิ่มขึ้นมากเท่าที่ควรจะเป็นและหลายคนมองข้ามพืชชนิดนี้ไปอย่างน่าเสียดาย แต่ถ้าคุณได้รู้จักพืชชนิดนี้แล้วเชื่อว่าคุณจะกลับมามองฝรั่งในมุมมองใหม่และทิ้งพืชที่คุณกำลังสนใจหันมาปลูกฝรั่งแทนกันเลยทีเดียว
เยี่ยมสวนฝรั่งของชาวสวนรุ่นใหม่
ดีกรี ปริญญาตรี ที่การันตี ... เงินล้านจากฝรั่งทำไม่ยาก
แม้จะเติบโตมากับอาชีพทำสวนแต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ลูกหลานชาวสวนจะไม่อยากเดินตามรอยอาชีพของพ่อ-แม่ ขณะเดียวกันพ่อ-แม่เองก็อยากให้ลูกหลานได้ทำงานบริษัทที่สุขสบาย ไม่ต้องมายึดอาชีพเกษตรที่ต้องตากแดดแทนการตากแอร์ในออฟฟิศ เช่นเดียวกับคุณวราภรณ์ ขุนพิทักษ์ ที่มีดีกรีถึงปริญญาตรีจาก มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ที่จะเลือกทำงานบริษัทในเมืองหลังจากเรียนจบแทนการมาเป็นชาวสวน แต่หลังจากทำงานได้ไม่กี่ปี เธอก็เลือกที่จะมาทำสวน เจริญรอยตามพ่อ-แม่เพียงเพราะมองว่างานสวนที่บ้านหนักเกินกว่าที่พ่อ-แม่จะทำไหว ซึ่งที่บ้านทำสวนกว่า 30 ไร่ โดยพืชหลักที่ปลูกก็คือมะม่วง ชมพู่และฝรั่ง ส่วนใหญ่จะเป็นมะม่วง แต่หลังจากที่คุณวราภรณ์เห็นว่าพืชที่ปลูกทั้งหมด ฝรั่งเป็นพืชที่น่าสนใจที่สุด เพราะมะม่วงที่ทำมานานนั้นพื้นที่ 30 ไร่ มีรายได้เพียงปีละ 2-3 แสนบาทเท่านั้น เพราะเป็นมะม่วงพันธุ์ทั่วไปที่เน้นขายป้อนตลาดขายส่งทั่วไป ขณะที่ฝรั่งสามารถให้ผลผลิตเร็ว เพียง 8 เดือนหลังปลูกฝรั่งก็จะสามารถตัดลูกชุดแรกได้แล้ว อีกทั้งผลตอบแทนก็สูง คุณวราภรณ์จึงตัดสินใจเปลี่ยนพื้นที่สวนมาเป็นฝรั่งเพียงอย่างเดียวและปลูกฝรั่งมาตลอด วันนี้คุณวราภรณ์บอกว่า เธอตัดสินใจไม่ผิดที่เลือกเป็นชาวสวนเพราะรายได้จากการทำสวนเพียงเดือนเดียวมันมากกว่ารายได้ที่เธอทำงานบริษัททั้งปีซะอีก ฝรั่งเพียง 10 ไร่ สามารถทำเงินได้หลักแสนต่อเดือน ปีหนึ่งสามารถทำเงินหลักล้านได้ไม่ยากจากฝรั่งเพียง 10 ไร่ ซึ่งปัจจุบันคุณวราภรณ์มีพื้นที่ปลูกฝรั่งกว่า 24 ไร่
วางแผนการผลิตให้ฝรั่งเก็บผลผลิตช่วงแพง
แปลงฝรั่งของคุณวราภรณ์จะมีอยู่ 2 แปลง แปลงหนึ่ง 14 ไร่ อีกแปลง 10 ไร่ คุณวราภรณ์บอกว่า พืชทุกชนิดจะช่วงราคาถูก แพงในรอบปี ฝรั่งก็เช่นเดียวกันค่ะ มักจะมีราคาถูกในช่วงร้อนหรือประมาณเดือน เม.ย.-มิ.ย. ซึ่งเป็นช่วงฤดูกาลใหญ่ของผลไม้บ้านเรา ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่มะม่วง เงาะ ทุเรียน มังคุดบุกตลาดเมื่อไหร่ เมื่อนั้นผลไม้ชนิดอื่นแทบหมดความสำคัญ และช่วงนั้นจะเป็นช่วงตกต่ำของผลไม้เพราะเป็นช่วงที่มีผลไม้ออกสู่ตลาดมากที่สุด ถ้าไม่อยากเสี่ยงกับราคาช่วงนี้ก็หลีกเลี่ยงที่จะให้มีผลผลิตเก็บขายได้ช่วงที่ผลไม้ประดังกันออกมา ดังนั้นช่วงนี้คุณวราภรณ์จะไม่ห่อผลฝรั่งเลย ราคาฝรั่งช่วงนี้จะไม่ไกลไปกว่า 10 บาท/กก.หน้าสวน
ส่วนช่วงที่ฝรั่งมักมีราคาแพงจะเป็นช่วงที่ไม่ค่อยมีผลไม้ชนิดไหนออกสู่ตลาดอย่างช่วงเดือน ส.ค.-ต.ค. ช่วงนั้นราคาฝรั่งจะสูงถึง 30-40 บาท/กก. (หน้าสวน) กับอีกช่วงคือ ม.ค.-ก.พ.ซึ่งมีเทศกาลต่างๆมาก การวางแผนจะให้ฝรั่งเก็บได้ช่วงไหนก็นับย้อนไป 5 เดือนแล้วโน้มกิ่งให้ฝรั่งแตกยอดใหม่เพื่อที่จะให้ผลผลิต หรือนับจากห่อผลก็ 3 เดือนสามารถเก็บเกี่ยวได้ โดยฝรั่งที่จะเก็บผลได้ในช่วง ส.ค.-ก.ย. ก็จะต้องโน้มกิ่ง ต้นเดือน มี.ค.ซึ่งก็คือช่วงนี้นั่นเอง คุณวราภรณ์โน้มกิ่งหลังจากเก็บผลผลิตชุดใหญ่ขายไปเมื่อเดือน ก.พ. ช่วงตรุษจีนที่ผ่านมานี้เอง
ฝรั่ง 10 ไร่ สามารถทำเงินได้หลักแสนต่อเดือน หลักล้านต่อปี
ชาวสวนหลายคนที่ทำสวนฝรั่งอาจไม่ได้เก็บข้อมูลตัวเลขการลงทุนและรายได้ แต่คุณวราภรณ์เก็บข้อมูลไว้หมด ซึ่งทำให้เราเห็นภาพที่ชัดเจนของการทำสวนฝรั่งได้เป็นอย่างดี คุณวราภรณ์บอกว่า ฝรั่งเป็นพืชที่ให้ผลผลิตเก็บเกี่ยวได้ตลอดทั้งปีเลยทีเดียว โดยจะมีผลผลิตชุดใหญ่ๆอยู่ประมาณ 3 ชุดต่อปี อย่างชุดตรุษจีนที่ผ่านมาซึ่งเป็นชุดใหญ่ พื้นที่ 10 ไร่ สามารถเก็บเกี่ยวได้มากถึง 44,000 กก. ในช่วงเวลาการเก็บ 5-6 วัน(หมดชุด)ราคาช่วงนั้น 25-35 บาท/กก. ชุดเดียวทำเงินไปเหยียบล้านเลยทีเดียว โดยฝรั่ง 10 ไร่จะลงทุนต่อ 1 ชุดเพียงแสนกว่าบาทเท่านั้น
เทคนิคการดูแลสวนฝรั่งเพื่อให้ได้ผลผลิตคุณภาพ
คุณวราภรณ์เล่าถึงการดูแลฝรั่งที่สวนว่า ฝรั่ง 1 ไร่ สามารถปลูกได้ 150-200 ต้น ขึ้นกับสภาพพื้นที่ปลูก และระยะปลูก ที่จะปลูกแบบยกร่องสวนเนื่องจากเป็นเขตที่ลุ่ม ขนาดร่อง 2 เมตร บนร่องปลูก 2 แถว แบบสลับฟันปลา ระยะปลูกประมาณ 1.5 เมตร ฝรั่งจะเริ่มเก็บได้เมื่ออายุ 8 เดือนหลังปลูก โดยในรอบ 1 ปี จะทำชุดใหญ่ 3 ชุด โดยชุดที่จะมีราคาแพงที่สุดจะเป็นชุดที่เก็บเกี่ยวเดือน ส.ค.-ก.ย. ซึ่งเป็นฝรั่งที่จะต้องโน้มกิ่งในช่วงต้นเดือนมีนาคม การโน้มกิ่งฝรั่งจะทำให้ฝรั่งแตกยอดพร้อมกับออกดอกบนกิ่งที่โน้ม โดยจะโน้มกิ่งให้ราบขนานกับพื้นแล้วผูกมัดกิ่งกับหลักไม้ไผ่ พร้อมกับตัดปลายกิ่งเพื่อหยุดการแตกยอดหรือหยุดการเจริญเติบโตของยอดหรือที่ชาวสวนเรียกการหักยอด หรือขลิบยอด ซึ่งฝรั่งจะติดดกหรือไม่นั้นก็ขึ้นกับความสมบูรณ์ของต้น ซึ่งคุณวราภรณ์จะดูแลให้ฝรั่งต้นสมบูรณ์ตลอดทั้งปี โดยหลังจากโน้มกิ่งแล้วจะใส่ปุ๋ย 25-7-7 พื้นที่ 10 ไร่ ใส่ประมาณ 3 กระสอบ หลังจากนั้นอีก 15 วัน ใส่ 16-16-16 อัตราเดิม เมื่อผลโตขนาดเท่าผลส้มจะเปลี่ยนมาใส่ขี้ค้างคาวอัดเม็ดและปุ๋ยอินทรีย์เคมีอัดเม็ดที่มีธาตุอาหารแคลเซียม แมกนีเซียมเป็นส่วนประกอบ(ไบโอฟีด ของ เคโมคราฟ) ซึ่งจะทำให้ฝรั่งผิวสวย ฝรั่งผิวออกขาว ไม่เขียวและรสชาติหวาน กรอบ เนื้อฟู ทางใบพ่นน้ำส้มควันไม้อย่างต่อเนื่องทุก 7-10 วัน เพื่อช่วยในด้านการเจริญเติบโต ความสมบูรณ์ของต้นและยังช่วยแมลงอีกด้วย แคลเซียม-โบรอนพ่นประจำไม่ให้ขาด จะช่วยทั้งเรื่องเพิ่มความสมบูรณ์ของดอก เพิ่มการติดผลดก ขั้วเหนียว ผลกรอบ รสชาติหวาน และช่วงใกล้เก็บเกี่ยวเสริมน้ำตาลทางด่วนเพื่อเพิ่มรสชาติช่วยอีกแรง นอกจากนี้จะมีการใส่ปุ๋ยอินทรีย์เพื่อช่วยปรับสภาพโครงสร้างดินเป็นระยะๆ ปีละ 3 ครั้ง การพ่นสารเคมีกำจัดโรค-แมลง จะพ่นหนักหน่อยในช่วงก่อนห่อผล 7 วันหลัง แต่หลังห่อผลแล้วก็จะพ่นห่างหน่อย สารเคมีที่ใช้ก็จะเป็นยาพื้นๆ อย่างคลอร์ไพรีฟอส ไซเปอร์เมทริน เมโทมิล สารกำจัดเชื้อราก็ใช้เพียงแมนโคเซ็บ คาร์เบนดาซิม นอกจากว่าเจอโรค-แมลงที่หนักๆจึงจะใช้ยาที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น แต่ที่ผ่านมาก็ไม่มีปัญหาอะไรรุนแรง ส่วนการให้น้ำจะให้ 2 วันครั้ง ช่วงร้อนๆอย่างนี้จะให้น้ำทุกวัน
เมื่อผลขนาดเท่าเหรียญ 10 บาท จะห่อผลเพื่อป้องกันแมลงวันทองโดยใช้ถุงพลาสติกที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันแมลงวันทองโดยเฉพาะ หน้าตาเหมือนถุงก๊อปแก๊ปทั่วไปแต่จะหนากว่า แล้วห่อทับด้วยกระดาษอีกชั้นเพื่อให้ผิวสวย ฝรั่ง 1 ต้น จะห่อประมาณ 100 ลูก ถ้าเลือกไว้ผลมากเกินไปต่อต้นจะทำให้ผลมีขนาดเล็กได้ จึงควรไว้ผลให้พอเหมาะกับขนาดและความสมบูรณ์ของต้น
คุณวราภรณ์บอกว่า ฝรั่งเป็นพืชที่ต้องใช้แรงงานเยอะอยู่ 3 ช่วง คือ ช่วงโน้มกิ่ง จะหนักหน่อยก็ช่วงห่อ ฝรั่ง 10 ไร่ วันหนึ่งต้องห่อ 7-8 คน และต้องห่อ 2-3 วันจึงจะเสร็จ ถ้าให้เสร็จวันเดียวต้องจ้างมากถึง 20-25 คน และต้องเป็นแรงงานที่มีความชำนาญด้วย อีกช่วงคือ ช่วงเก็บฝรั่ง
ฝรั่งส่วนใหญ่จะมีอายุการเก็บเกี่ยวผลผลิตประมาณ 5 ปี ต้นก็จะเริ่มโทรมการให้ผลผลิตก็จะสู้ต้นสาวๆ หรือต้นอายุน้อยๆไม่ได้ ประกอบกับหลายสวนมีปัญหาฝรั่งตายต้นจากไส้เดือนฝอยซึ่งยังแก้ไม่มีวิธีการแก้ปัญหาที่ได้ผลอย่างชัดเจน นอกจากการปรับปรุงดินให้สมบูรณ์ ร่วนซุย ไม่มีความเป็นกรดมากเกินไปก็จะช่วยลดความรุนแรงของการระบาดลงไปได้บ้าง ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาจึงทำให้ชาวสวนฝรั่งมักจะรื้อแปลงปลูกใหม่เมื่อฝรั่งอายุ 5-6 ปี จึงทำให้เราเห็นแปลงฝรั่งแปลงใหม่ๆเกิดขึ้นอยู่ตลอดในพื้นที่เขตนี้ ตราบใดที่ฝรั่งที่ราคาดีอย่างนี้ โดยราคากิ่งพันธุ์ที่จำหน่ายกันอยู่ที่ 12 บาท/กิ่ง 1 ไร่ประมาณ 150-200 ต้น ซึ่งลงทุนเพียง 2,000 กว่าบาทต่อไร่ ถือว่าไม่สูงเลยเมื่อเทียบกับพืชอย่างอื่น ขณะที่ฝรั่งมีจุดเด่นตรงที่ให้ผลผลิตเร็วเพียง 1 ปี อีกทั้งยังมีต้นทุนในการดูแลไม่สูง แต่ผลตอบแทนสูงมาก ชาวสวนเขตนี้ยังยึดอาชีพปลูกฝรั่งมาตลอดหลายสิบปี ยิ่งช่วง 4-5 ปีมานี้ราคาฝรั่งดีมาก ทำให้คนที่เคยปลูกพืชอื่นหันมาปลูกฝรั่งกันมากขึ้น ขณะที่ในพื้นที่ที่ไม่เคยปลูกฝรั่งก็จะกลัวว่าไม่สามารถทำให้ฝรั่งออกดอกติดผลได้ จึงทำให้พื้นที่ฝรั่งเพิ่มขึ้นเฉพาะในพื้นที่แหล่งผลิตเดิมๆ
ขอขอบคุณข้อมูล วราภรณ์ ขุนพิทักษ์ โทร. 087-9981131
cr. กลุ่มเกษตรก้าวใหม่ by Rakkaset Nungruethail (คุณหนึ่ง) บรรณาธิการ หนังสือรักษ์เกษตรมีจำหน่ายที่ห้างชั้นนำทั่วไป